หลายท่านผู้อ่านคงทราบดีเเล้วว่า บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เเละบางประเทศอื่นๆ ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ออกสื่อว่า "บุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพเเละมีระดับนืโคตินที่สูงกว่าบุหรี่ปกทั่วไปถึง 15 เท่า" คำถามเเรกก็คือ ข้อความเหล่านี้เป็นความจริงหรือไม่ ? หากเราเป็นผู้รับสื่อที่ดีเราก็จะต้องฟังความจากสองด้านของสื่อ จริงไหมครับ ทางผู้เขียนจะขอนำเสนอข้อมูลที่เป็นกลาง เพื่อให้เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่ไม่ได้รับการเปิดเผยจากสื่อหลักๆ นะครับ

ประการเเรกคือ

1. เรื่องของระดับนิโคตินเเละสารนิโคตินเอง ได้ถูกจำเเนกว่าเป็นสารเสพย์ติด ทั้งนี้สารตัวนี้ควรจะได้รับการควบคุมจากองค์กรเพื่อควบคุมปริมาณการใช้อย่างเหมาะสม นิโคติน โดยตัวของมันเองเเล้ว อ้างอิงจากงานของ Dr. David Baron กล่าวว่า "นิโคตินไม่ใช้ต้นเหตุของโรคมะเร็งอย่างเเน่นอน" นิโคตินจะทำให้ผู้ติดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสารอื่นๆ ทั้งนี้ นิโคตินที่เราสามารถพบได้ทั่วไปก็คือ จะอยู่ในบุหรี่ เเละในบุหรี่นั้นเองก้ได้มีการศึกษาตั้งเเต่ปี คศ 1960 ว่าพบสารที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ นาๆ อย่างมากมาย หรือที่เรียกกันว่า Carcinogens ระบบการเผาเเละการสูดดมควันก้เเน่ชัดว่าจะมีสารจำพวก Carbonmonoxide ซึ่งอาจทำให้ผู้สูดดมเสียชีวิตหากได้รับเข้าไปติดต่อกันเเม้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้นเมื่อผู้ที่ติดบุหรี่ที่มีนิโคตินผสมอยู่ด้วยเเล้ว จะทำให้ได้รับสารเหล่านี้เข้าร่างกายอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เราเข้าใจได้ว่า การติดนิโคตินลักษณะที่มีการเกี่ยวข้องกับสารอื่นเช่นนี้ ย่อมเป็นสิ่งที่เราควรจะหลีกเลี่ยง ยกเว้นเเต่หากว่า ถ้าเราใช้นิโคตินที่ไม่มีสารพิษมาเกี่ยวข้อง การติดนิโคตินลักษณะเช่นนี้ถือว่าไม่มีปัญหาตามความคิดเห็นของเเพทย์สหรัฐอเมิกา ดังนั้นเราจึงสามารถใช้นิโคตินเปล่าๆ ได้ทั่วไป อาทิ เช่น เเผ่นเเปะนิโคติน หมากฝรั่งงดบุหรี่ เป็นต้น หรือที่ไม่นานมานี้การเลียนเเบบการสูบด้วยบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งกระบวนการผลิตสิ่งที่คล้ายควันออกมา ก็คือการระเหยของไอน้ำ ไม่ใช่การเผาไหม้อย่างที่เข้าใจ 

2. เรื่อง น่้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเกิดจากการรวมของสารที่ใช้ในอุตสหกรรมอาหาร Prepolyene Glycol (PG) คือสารที่พบในอาหารรวมไปถึงสิ่งของใช้ในชีวิตประจำวันที่เราใช้กันทั่วไปอยู่เเล้ว สารตัวนี้จะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ เป็นสารที่ให้โมเลกุลของอะตอมเเข็งตัว น้ามาใช้ในการผสมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้สามารถระเหยเป็นไอน้ำได้ นอกจากนี้สารหลักๆ อื่นๆ เช่น Vegetable Glycol ก็เป็นสารสกัดจากพืชทั้งนั้น เทียบได้ว่าส่วนผสมโดยเฉลี่ยจะมีน้ำเป็นส่วนกระกอบ ประมาณ 99%  ส่วนที่เหลือจะเป็นสารนิโคตินที่ใส่เข้าไปให้ความรุ้สึก "ทดเเทนบุหรี่" เเละส่วนผสมของกลิ่นเเละรสชาติตามมา ปัญหามีอยู่ว่าระดับของนิโคตินมีหลายระดับไล่ตั้งเเต่สูง 18mg กลาง 11mg ต่ำ 6mg หรือไม่มีเลย 0 ก็มี การที่รัฐบาลออกสื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีส่วนผสมของนิโคตินมากกว่าบุหรี่จริง 15 เท่า อันนั้นมาจากว่า ในบุหรี่ทั่วไปจะมีค่านิโคตินผสมอยู่ 1mg ต่อมวน ทั้งนี้ผู้สูบบุหรี่อาจจะไม่ได้รับสารนิโคตินทั้งหมด จะขึ้นอยู่กับลักษณะการสูบของบุคคล เเต่ใน 1 ขวดของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ยกตัวอย่างระดับสูง (ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงมากที่สุด) จะมีนิโคตินผสมอยู่ 18mg ขนาด 10ml ดังนั้น 18mg = บุหรี่ 18 มวน นี่จึงเป้นที่มาของการกล่าวหาข้างต้น เเต่หากในความเป็นจริง ใน 1 ขวดของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้น ไม่จำเป็นต้องสูบภายในวันเดียวหมดขวด เฉกเช่นเดียวกับไม่ต้องสูบทั้งซองต่อวันก็ได้