รายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า Ruyan e-Cigarette ของ Health New Zealand Ltd.

http://www.healthnz.co.nz/2ndSafetyReport_9Apr08.pdf

http://www.healthnz.co.nz/coynews.htm

The Ruyan® (nicotine) e-cigarette   http://www.healthnz.co.nz/ecigarette.htm

How safe is the e-cigarette? Poster presentation to 14^th Annual meeting, Society for Research on Nicotine and Tobacco, Portland Oregon, 1 March 2008  http://www.healthnz.co.nz/Portland2008ECIG.pdf

Health New Zealand Ltd.    http://www.healthnz.co.nz

Summary
Aim This report aims to assist regulators in initial assessment of the safety of the Ruyan® e-cigarette, and the possible risks and benefits from permitting its sale.

Safety The Ruyan® e-cigarette is designed to be a safe alternative to smoking, and on examination from a number of aspects, appears to very safe relative to cigarettes, and also safe in absolute terms on all measurements we have applied. Using micro-electronics it vapourizes, separately for each puff, very small quantities of nicotine dissolved in propylene glycol, two small well- known molecules with excellent safety profiles, – into a fine aerosol. Each puff contains one third to one half the nicotine in a tobacco cigarette’s puff. The cartridge liquid is tobacco-free and no combustion occurs.

By May 2008 at latest, we intend to release results of our study of efficacy of the e-cigarette in raising nicotine blood levels and in relieving cigarette cravings. That study was of smokers using the e-cigarette for the first time, without prior experience of its use.

By June or July 2008, we plan another edition of this report, in response to findings to date. Upgrade of the cartridge liquid is planned to eliminate traces of contaminants.

Once on sale, its on-going safety profile depends on 1) good manufacturing practice and pharmaceutical-grade purity of the nicotine and propylene glycol used in the cartridge liquid. 2) the prevention of shared use which could result in cross infection.

 ___________________________________________________________________________________

Comments :

An electronic cigarette which could give smokers their nicotine hit without all those harmful ingredients which presently exist in cigarette smoke might actually help them to beat their addiction, New Zealand scientists claim.

Auckland University researchers are recruiting 48 smokers who want to quit, to take part in the world’s first trial of the “e-cigarette“. Hayden McRobbie, from the university’s clinical trials research unit, said the e-cigarette which is presently sold by a Chinese company over the internet for $200 each, is marketed as an alternative to smoking rather than a tool to stop smoking.

Doctor McRobbie said they think it might actually prove more effective than current nicotine replacement treatments, such as patches and gum, because smoking is not just a chemical addiction, it is also behavioural.

The device is “smoked” like a conventional cigarette, and even glows at the tip when the smoker draws on it. A vaporiser device delivers a measured dose of nicotine in a mist.

Ex-smokers have often said they miss the ritual of smoking: the e-cigarette gives them something to do with their hands - as an ex-smoker myself, it was something I missed as I successfully withdrew from my smoking habit through the aid of patches, back in 1991.

Alternatives need to be looked at to help smoking addicts. While nicotine is the active ingredient in cigarettes - it is the tars, carbon monoxide and the other chemicals that make up the over 200 poisons that exist in cigarettes. These cause the heart and lung diseases that kill 4500 New Zealanders a year - out of a population of 4.25 million.

Researchers hope the New Zealand study will be completed by March of 2008. This will benefit those involved in anti - smoking programs worldwide.

Making it easier for smokers to quit, and for NZ to end cigarette sales by law within 10 years     http://www.smokeless.org.nz/ 

 น่ารู้เรื่อง บุหรี่ไฟฟ้า ภาค 2 : อะตอมไมเซอร์

     Atomizer หรือ ที่รู้จักกันดีใรชื่อเรียกง่ายๆ ว่า “อะตอม” คือส่วนหัวใจหลักของบุหรี่ไฟฟ้าตัวที่ 2 รองจากแบทเตอรี่ คือส่วนที่ทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาระเหยภายในและก่อเกิดเป็นไอน้ำขึ้นมาครับ แต่ละอะตอมไมเซอร์จะให้ประสิทธิภาพรวมถึงคุณภาพที่ต่างกันไป ในปัจจุบันนี้ สามารถแยกอะตอมไมเซอร์ได้เป็นรุ่นหลักๆ ดังนี้ครับ

1. At        1.atomizer Cartridge : มันคืออะตอมไมเซอร์ที่ต้องการ หลอดบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาประกอบจึงจะสามารภทำงานได้ ตัวอย่างที่เห็นกันอย่างทั่วไปก็คือรุ่น eGo-C /  eGo-T สินค้าจากโรงงงาน Joyetech ต่างๆ ที่ยังคงใช้อะตอมรุ่นเดิม โมเดลนี้เป็นแบบคลาสสิกมากๆ ออกมาตั้งแต่ในปี 2010 ซึ่ง ตั้งแต่ออกมาก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั่วโลก เพราะเจ้าพวกนี้จัดอยู่ในกลุ่มของ Tank System หรือสามารถเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปใหม่ได้เรื่อยๆ นั่นเอง (ไม่นับบุหรี่ไฟฟ้าเกรดต่ำนะคับ) ที่ต้องเปลี่ยนตูดเมื่อใช้หมด ไม่สามารถเติมใหม่ได้ ปัญหาที่พบมากของรุ่นพวกนี้คือ อาการรั่วซึม เนื่องมาจากอะตอมไมเซอร์ระเหยน้ำยาไม่หมด บวกกับการสูบแรงๆ ที่เร่งอากาศให้ไปดันน้ำยาเข้าอะตอมไมเซอร์เร็วเกินไป จะทำให้เกิดอาการน้ำยาไหลย้อนเข้าปากหรือเรียกอีกชื่อคือ Atomizer Flooding การแก้ไขเบื้องต้นควรเริ่มจากการสูบของผู้สูบเองก่อนซึ่งต้องใจเย็นเอามากๆ เลยทีเดียวล่ะครับ

2.       2. Cartomizer : เป็นอะตอมไมเซอร์รุ่นพั?นาต่อจาก Tank System โดยใช้ คอนเซ็ปเดิมในการเติมน้ำยาในหลอด ใม่ใช้การถอดเปลี่ยนตูด รุ่นนี้ถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน อาทิเช่น Protank Series ต่างๆ รวมไปถึง MT3 ของเราด้วยครับ หลักการคือการนำเอาหลอดบรรจุน้ำยาเจ้าไปหา Cartridge เข้าไปรวมกับอะตอมไมเซอร์จึงไม่จำเป็นต้องดึงหลอดน้ำยาออกมาติมทุกครั้ง ซึ่งให้ความะดวกสะบายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวและยังช่วยลดชิ้นส่วนประกอบของบุหรี่ไฟฟ้าได้ด้วยครับ จากเดิม (แบทเตอรี่ + อะตอมไมเซอร์ + หลอดน้ำยา) จะเหลือแค่ (แบทเตอรี่ + คาร์โตไมเซอร์) แต่ละรุ่นก็ยังสามารถถอดเฉพาะไส้ทำความร้อนมันออกมาเปลี่ยนเมื่อหมดสภาพได้เหมือน eGo-C ครับ ซึ่ง  eGo-C นี้เป็นอะตอมรุ่นแรกที่สามารถถอดเปลี่ยนไส้อะตอมไมเซอร์ได้ จุดดีของพวกคาร์โตไมเซอร์นี้สามารถบรรจุน้ำยาได้เยอะถึง 2 เท่า และช่วยลดปัญหาการรั่วซึมได้เกือบ 100% สามารถใส่ได้ทั้งแบท eGo และ MOD ขนาดใหญ่ได้ดีครับ ด้วยรูปทรงที่เป็นมาตรฐานทำให้ไม่ค่อยเป็นปัญหาในการหาแบทใส่ที่เหมาะสมครับ เดี๋ยวนี้จะออกมาหลายสีสันมากๆ แต่รุ่นที่เป็นรุ่นนิยมช่วงแรกคือตระกูล CE > Vivi > T2 > Protank > MT3 (EVOD) ครับผม

3.       3. Dripping Atomizer : เป็นอะตอมไมเซอร์ที่อาศับความชำนาญและความชื่นชอบการอยู่กับบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะนะครับ เพราะจะเป็นอะตอมไมเซอร์ที่เรียกได้ว่าต้องเริ่มทำการโมกันเองตั้งแต่ต้นเลย ข้อดีคือเราสามารถเปลี่ยนอะไหล่รวมถึงซ่อมเองได้เลยครับ ข้อเสียคือมันยุ่งยากมากๆ เสี่ยงต่อวงจร แบทเตอรี่มีปัญหาครับเมื่อเกิดการลัดวงจรเกิดขึ้น คำว่า Dripping หมายถึงการ หยดเมื่อต้องการสูบ ฉะนั้นตัวนี้เราจำเป็นต้องพกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าติดตัวไว้เสมอ และเมื่อต้องการสูบก็หยด 2 – 3 ทีก่อนสูบทุกครั้ง ซึ่งบางคนอาจจะไม่สะดวกเอามากๆ แต่ก็แลกด้วยรสชาติและความเข้มข้นของไอน้ำที่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน หากท่านใดใช้อะตอมประเภทนี้ แนะนำว่าควรใช้กับแบทMechanical MOD นะครับ เพราะจะไม่มีวงจรมาให้ต้องเป็นห่วงเลยครับผม

จบจจากประเภทของอะตอมไมเซอร์ก็เข้าสู่เรื่อง วัสดุที่ทำและไส้ทำความร้อนของอะตอมไมเซอร์ครับ ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า ส่วนประกอบสำคัฐในอะตอมไมเซอร์คือ ลวดทำความร้อน Heating Wire ที่มีค่าต้านทานแตกต่างกันไป ( Resistant 1.6 – 2.6Ohm) ค่านี้มีผลอย่างมากนะครับต่อการเลือกแบทเตอรี่ หากค่าต้านน้อยก็ควรเลือกแบทไฟต่ำ หากมากก็ต้องการแรงมากหน่อย เจ้า Resistant นี้เปรียบเสมือนกับกำแพงกั้นกระแสไฟฟ้าน่ะครับ ว่าต้องการให้มีมากน้อยเพียงใด หากต่ำจิงๆ นับตั้งแต่ 1.8ohm ลงไปจะเรียกว่า Low Resistant หรือ LR นั่นเองครับ อีกส่วนประกอบที่หลายคนมองข้ามคือ ใยแก้ว Silica Wick ที่ทำมาจาก Fiber ส่วนนี้จะหน้าที่ซับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแล้วจะค่อยๆ หยดลงขดลวดทำความร้อนโดยอัตโนมัติเมื่อตอนเราสูบน่ะครับ  ใยแก้วนี้จะมีหลายเกรดเอามากๆ และคุณสมบัติในการอุ้มน้ำยาไว้ หาเปรียบให้เห็นภาพมากขึ้นก็เหมือน ดินน่ะครับ ก็จะมี ดินเหนียว ดินร่วน และ ดินทราย ที่ให้ประสิทธิภาพในการยอมให้น้ำไหลผ่านมากน้อยเพียงใด ตัว MT3 ของเรานี้จะเป็น Tissue Silica Wick ซึ่งนับว่าเป็นเกรดสูงสุดของเชือกเดินน้ำยาในปัจจุบันแล้วครับผม อีกส่วนหนึ่งที่มีผลต่ออะตอมไมเซอร์ก็คือรเรื่องระบบไหลเวียนอากาศครับ Air Ventilation System ซึ่งหากเป็นแบบ Tank Cartridge ก็จะผ่านหลอดเดินน้ำยา แต่ถ้าเป็น Cartomizer หรือ Dripping Atomizer จะคำนวนแรงดันจากรูเดินน้ำยาด้านข้างของตัวมันครับ ถ้ามีรูอากาศใหญ่ก็จะให้อารมณ์สูบสบายๆ โล่งๆ แต่ถ้าเล็กก็ดึงกันเอาหน่อยนะครับ ชะนั้นเรื่องรูลม จะมีผลต่อการฟีดน้ำยาเข้าขดลวดครับ เราต้องกะให้ได้ว่าหากสูบประมาณเท่านี้ น้ำยาจะเข้าไป Heating Wire มากน้อยเพียงใด และจะสามารถระเหยได้หมดหรือไม่นั่นเองครับ

โปรดติดตามน่ารู้เรื่องุหรี่ไฟฟ้า ภาค 3 : น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ได้ในตอนต่อไปครับ

บทความจาก e-cigseelznetwork.com

น่ารู้เรื่อง บุหรี่ไฟฟ้า ภาค 1 : เเบทเตอรี่บุหรี่ไฟฟ้า

  บุหรี่ไฟฟ้าที่นำมาขายอยู่อย่างทั่วไปนั้น สามารถจำแนกได้ประเภทใหญ่ๆ 3 ประเภทด้วยกัน ซึ่งเดิมทีจะมีแค่ Manual กับ เบบ automaticครับ ตัว Manual นั้นคือจะเป็นลักษณะบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้การกด เพื่อเปิดให้สัญญาณไฟฟ้าเชื่อมต่อกัน และส่งกระแสไฟฟ้าไปยังตัวอะตอมไมเซอร์หรือส่วนทำความร้อนนั่นเอง ในลักษณะเดียวกัน การใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบออโตมาติกหรือการคำนวณแรงดันอากาศจากการสูบของเรานั่นเองครับ เมื่อมีมวลอากาศผ่านรูลม ตัวไมโครชิพที่แบทเตอรี่จะเปิดการทำงานเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าที่ตัวอะตอมไมเซอร์นั่นเองครับ ทั้งสองแบบคือบุหรี่ไฟฟ้าฉบับดั้งเดิม เป็นคอนเซ็ปเรื่องแรกๆ ที่ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ารู้กันดีอยู่แล้วครับผม ส่วนแบบที่สามคือเทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ ที่เข้ามาเสริมบทบาทให้เจ้าพวกอุปกรณ์พวกนี้ครับ นั่นคือ แบทเตอรี่บุหรี่ไฟฟ้า เบบที่สามนั่นเอง หรือที่รู้จักกันชื่อของ MOD หรือ Modified Battery ซึ่งแบทเตอรี่พวกนี้จะมีลูกเล่นหรือฟังก์ชั่นเสริมเข้ามาเพื่อให้การสูบของคุณนั้นเพิ่มอรรณรสขึ้นไปอีก อาทิเช่น Variable Voltage , Atomizer Resistant , Puff Counter และ Passthrough รวมถึงมีจอแสดงค่าต่างๆ ด้วยครับ ตัว mOD แบทเตอรี่นั้นยังแยกย่อยได้อีก 2 แบบอีกคือ Mechanical Battery และ Digital Battery ครับ Mechanical หรือแบทเตอรี่ไร้วงจร IC สนิท เหมาะสำหรับการใช้กับพวกอะตอมไมเซอร์รุ่นที่ต้องพันขดลวดเอง เพราะป้องกันวงจร IC เสียหาย อันอาจเกิดจากค่าลัดวงจรของตัวอะตอมไมเซอร์ครับ รุ่นพวกนี้จะใช้ แบทเตอรี่ไซส์ต่างๆ กัน แต่โดยปกติจะมีขนาดใหญ่ เช่น 18650 ครับ จ่ายไฟกำลังคงที่ที่ 3.7v ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานกับแบทเตอรี่ปกติทั่วไป เช่น eGo 650mah / 900mah / 1100mah ครับผม แต่ส่วน Digital MOD จะมีฟังก์ชั่น Variable Voltage ซึ่งสามารถเร่งความแรงของแบทเตอรี่ ได้อีกเท่าตัวนึงเลยทีเดียว ตั้งแต่ 3.2v – 6.0v ขั้นอยู่กับค่าต้นทานของอะตอมไมเซอร์นั่นเอง ยิ่งค่า Ohm Resistant ต่ำ ต้องยิ่งปรับไฟต่ำลง มิฉะนั้นจะเกิดอาการไหม้ หรือ Burning Taste นั่นเองครับ Digital Battery จะเป็นการจ่ายไฟลักษณะ Digital Pulse หรือการจ่ายไฟแบบจุดและถี่ๆๆ มากๆ จนเกือบเป็นเส้นตรง ต่างกับ Linear Pulse ซึ่งจะเป็นแบทเตอรี่ MOD อีกรูปแบบหนึ่งแต่ไม่มีจอแสดงผลครับ เช่น รุ่น eGo-C Twist , eGo RT MT3 เป็นต้น พูดง่ายๆ คือจะนิ่งกว่านั้นเอง

การใช้ระบบ Variable Voltage มีข้อดีคือการระเหยไอน้ำจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้รวดเร็วขึ้นถึง 2 เท่า หรือระเหยไอน้ำได้มากกว่านั่นเอง ข้อเสียคือหากเราปรับระดับไฟไม่เหมาะสมจะเกิดอาการไหม้ หรือถ้าเบาไปก็จะท่วมครับ อีกอย่างนึงคือแบทที่เร่งไฟได้แม้จะมีความจุสูง แต่เบทเตอรี่จะหมดเร็วขึ้น 30% ครับ เนื่องจากการเดรนแบทเตอรี่ที่มากขึ้น เทียบกับระบบปกติที่ไม่สามารถเร่งไฟได้ อย่างไรก็ตาม แบทเตอรี่เป็นหัวใจหลักสำคัญในการประกอบบุหรี่ไฟฟ้า 1 ชิ้น (แบทเตอรี่ + อะตอมไมเซอร์ + หลอดน้ำยา = บุหรี่ไฟฟ้า 1 ตัว ครับ) นอกจากแบทเตอรี่แล้ว ส่วนสำคัญต่อมาก็คือ อะตอมไมเซอร์ หรือชุดทำควันนั่นเองครับ การเลือกแบทเตอรี่ควรจะเหมาะสมกับอะตอมไมเซอร์ของชุด ไม่ใช่ว่าเลือกแบทแล้วจะใส่กับอะตอมตัวไหนก็ได้นะครับผม  ยิ่งไปกว่านั้น แบทเตอรี่แต่ละตัวก็จะมีลักษณะพิเศษที่ต่างกันไป ในที่นี้พูดถึงระบบการไหลเวียนอากาศครับผม แบทเตอรี่ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของขั้ว eGo หรือ 510 อันใดอันหนึ่ง ไม่รวมแบทเฉพาะเช่นรุ่น Elips ที่ต้องใช้ชุดฐานอะตอมไมเซอร์ของมันเองนะครับ แต่ละแบทเตอรี่จะให้ฟีลลิ่งการสูบหรืออารมรณ์ตอนสูบที่ไม่เหมือนกันนะครับ บางตัวสูบสบายโล่งๆ บางตัวแน่น ต้องลากกันเอาหน่อย ซึ่งแนะนำว่าควรจะหาข้อมูลหรือสอบถามผู้ขายก่อนตัดสินใจซื้อครับผม อย่าลืมว่าเรื่องแบทเตอรี่ ยิ่งมีฟังก์ชั่นเยอะ ยิ่งมีอากาสไปไว หากมีจุดบกพร่องเกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว พารวนทั้งระบบเลยหล่ะครับ (ลองมาแล้ว) เช่น Joyetech eVicจับค่าอะตอมไมเซอร์รุ่นอื่นๆ ไมได้ Atomizer Short หรือไม่ก็อัพ Firmware แล้วค่าแสดงผลผิดเพี้ยนไป ดังนั้น หากต้องการความปลอดภัยแนะนำว่าไม่ต้องใส่ลูกเล่นเยอะครับ เอาคลาสสิกๆ เข้าไว้

อีกอย่างเรื่องแบทเตอรี่ที่ผมอยากพูดถึงก็คือ “ยิ่งเล็ก ยิ่งเบา” เบาในที่นี้หมายถึงปริมาณของควันที่ได้นะครับ จริงๆ แล้วไม่อยากเรียกว่าควันเลย เรียกว่า “ไอน้ำ” ดีกว่าเนอะ แบทเตอรี่ตัวเล็กก็จะมีกำลังขับไฟยิ่งน้อยลงไป เปรียบเทียบกับรุ่นใหญ่ๆ อย่างน้อยที่ควรเลือกควรจะเป็นแทเตอรี่ eGo 650 mah + ขึ้นไปนะครับ เล็กๆ ลงกว่านี้ ไม่ค่อยแนะนำครับ นอกเสียจากว่าเน้นความสวยงามและขนาดพกพาเท่านั้นเอง การเลือกบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ควรมองแค่ราคาถูก ซื้อไปท่านอาจจะเสียเงินปล่าว เพราะไม่ตอบโจทย์ตรงความต้องการของท่านได้ เช่น ไอน้ำน้อย ร้อนง่าย และที่แน่นอนที่สุดคือ ไปไว นั่นเองอิอิ ... เราควรสร้างความประทับใจให้ตนเองก่อนคับ ไหนๆ เราก็คิดจะเลิกบุหรี่ทั้งทีไม่ควรถนอมมากไปนะครับบผม

สุดท้ายแล้วคือ อายุการใช้งานของแบทเตอรี่ ทั้งนี้แบทเตอรี่ที built in ต่าง จะไม่สามารถถอดเปลี่ยนเองได้ เช่นรุ่น eGo ต่างๆ นอกจากจะมีCell Battery เปลี่ยนเองได้  และต้องเชื่อมบัดกรีด้านในกับวงจรด้วยจรด้วยตนเองครับ แต่รุ่นพวก MOD จะสามรถซื้อแบทเตอรี่ 18650 และอื่นๆ ที่ไม่มีวงจรเปลี่ยนเองได้เลย ถ่ายไฟฉายอันใหญ่ๆ นั่นแหละครับผม แต่ละแบทเตอรี่จะมี Circle ประมาณ 300 ครั้ง (8 เดือน) ชาทไปสูบไปก็นับ 1 ครั้งนะครับต่อการประจุไฟ ดังนั้นไม่จำเป็นควรใช้ให้หมดก่อนแล้วชาททีเดียวครับบ

ขอจบบทความเรื่องแบทเตอรี่บุหรี่ไฟฟ้าไว้เท่านี้ก่อนนะครับ หากต้องการติดตามบทความต่อไปเรื่อง อะตอมไมเซอร์ และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า สามารถอ่านต่อที่ที่เมนูบทความครับผม

 บทความจาก  e-cigseelznetwork.com

 วันนี้นะครับ ทางผู้เขียนขอนำเสนอ เรื่องราวที่อาจจะอยู่เบื้องหลังของการกำหนดข้อกฏหมายให้กับกลุ่นสินค้าจำพวก บุหรี่ไฟฟ้า 

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเป็นอีกทางเลือกของการทดเเทนนิโคตินถือว่าเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการสูบบุหรี่มากที่สุด เเต่ปัญหามีอยู่ว่า ทำไมบุหรี่ไฟฟ้าเเม้จะมีข้อดีเมื่อเปรียบเทียบกับบุหรี่ปกติทั่วไปเเล้ว ยังถูกห้ามในหลายๆ ประเทศอาทิเช่น ประเทศไทยเป็นต้น ผู้เขียนจึงอยากขอเสนอเเนะข้อมูลบางประการที่เกี่ยวกับเจ้าบุหรี่ไฟฟ้า ค่อนข้างมีความสำคัญมากเลยทีเดียวเเหละครับ

1. ประเทศใดที่มี โรงงานยาสูบซึ่งที่เมืองนอกเค้าจะเรียกกันว่า Monopoly หมายถึง องค์กรๆ หนึ่ง ที่มีอำนาจควบคุมสินค้าเด็ดขาดเเต่เพียงผู้เดียวในประเทศนั้นๆ สินค้าบุหรี่ซึ่งสามารถทำรายได้มหาศาล จะเป็นต้องได้รับค่านิยมอย่างต่อไป สินค้ากลุ่มอื่นหรือกลุ่มใดที่อาจหักล้างค่านิยมการสูบบุหรี่จึงถือว่าเป็นภัยต่อโรงงานยาสูบทั้งสิ้น ทั้งนี้การกำเนิดขึ้นของเจ้าบุหรี่ไฟฟ้าเเละน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านิโคตินที่สามารถใช้ทดเเทนการสูบนั้นย่อมได้รับการโจมตีทางด้านสื่อต่างๆ นา ทางทีวี หนังสือพิมพ์ โฆษณาเเละอื่นๆ โรงงานยาสูบพวกนี้หาได้คำนึงถึงสุขภาพของประชาชนไม่ อีกทั้งยังเป็นพวกที่เค้าเรียกกันว่า Capitalism ซึ่งกลุ่มคนธุรกิจประเภทนี้จะไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากเงินที่ไหลเข้ากระเป๋า ใช้อำนาจในการต่อรองด้านสิ้นค้า เเละส่งเสริมค่านิยมที่ผิดๆ ในการสูบบุหรี่ ว่าเป็นสิ่งโก้เก๋ เเละควรเอาเยี่ยงอย่าง ... ถึงเเม้ รายงานด้านสุขภาพจะเเสดงให้เห็นเเล้วว่าบหรี่นั้นมีสารพิษที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งเเละอื่นๆ อีกมากมาย เเต่สินค้าตัวนี้ก็ยังไม่หมดไป มีเพียงเเต่การควบคุม ด้วยคำเตือนบนฉลาก เเต่ทำไมบุหรี่ไฟฟ้า เเม้ยังไม่ได้มีการศึกษาออกมาชัดเจน เเต่มุมมองโดยรวมทั่วไปเห็นได้ชัดว่ามีความเป็นไปได้กับการทดเเทนบุหรี่ซึ่งไม่มีสารประกอบ 4000 กว่าชนิดที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ อีกทั้งยังไม่ส่งผลเสียต่อคนรอบข้างอีกด้วย น่าเเปลกใจว่าทำไมบุหรี่ไฟฟ้าถึงถูกห้ามโดยสิ้นเชิงทั้งๆ ที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นให้ผลประโยชน์ต่อผู้ที่ติดสารนิโคตินเเละผู้ที่ติดกับการสูบบุหรี่ หรือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเงิน ? ซึ่งถ้าเเม้บุหรี่ไฟฟ้าย่อมได้รับความนิยมที่ดีกว่าช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ อาจจะเป็นจุดจบของโรงงานยาสูบ ? ทุกอย่างก็เป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุดรัฐบาลควรให้โอกาสบุหรี่ไฟฟ้าได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทางเลือกของคนที่สูบบุหรี่หรือติดสารนิโคตินนะครับ เพราะคุณยังให้โอกาศคนได้เลือกสูบบุหรี่อยู่เลย 

2. ต่อมาคือเรื่องภาพลักษณ์ของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งผู้คนทั่วไปไม่สามารถเเยกเเยะความเเตกต่างระหว่าง ไอน้ำ เเละ ควัน สิ่งที่ออกมาจากปากของคนสูบก็มีลักษณะคล้ายกัน เเต่ในความเป็นจริงเเล้วต่างครับ ต่างกันมากๆ ด้วย ควันจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาไหม้ของสสารต่างๆ ซึ่งมักจะมีสารพิษเช้น คาร์บอนมอนอกไซด์ผสมอยู่ เเต่ไอน้ำนั้นเป็นเพียงเเค่การระเหยของน้ำเมื่อถุงจุดเดือดของมัน เเต่จะไม่มีสารพิษทางอากาศอย่างเเน่นอน หรือเหตุการณ์เช่นนี้ รัฐบาลจึงเอามาเป็นข้อกำหนดเกรงว่า หากบุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมอาจส่งผลหรือเชียร์ให้คนหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเเน่นอนครับ ขัดเเย้งการการรณรงค์ไม่สูบ ทำให้ภาพลักษณ์ที่ออกมาก็คือคนสูบบุหรี่นั่นเเหละครับ

ทำไมรัฐบาลไทยถึงอ้างอิงว่า บุหรี่ไฟฟ้า อันตรายกว่าบุหรี่ธรรมดาถึง 15 เท่า

บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายหรือไม่?

ปริมาณนิโคตินในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

สูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วแสบคอ ทำยังไงดี

บทความดีๆ เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าจากบอร์ด Pantip ครับ

บุหรี่ไฟฟ้าระเบิด เรื่องจริงหรือสื่อบิดเบือน?

 

ร.ต.ท. เทียนชัย เนื่องจำนงค์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บสาหัสภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยหลังตลาดสดศรีราชา อ.ศรีราชา จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมกับหน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ครึ่งปูนครึ่งไม้ ด้านในพบร่าง นายมินอู อายุ 22 ปี สัญชาติพม่า นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน อยู่ที่บริเวณหน้าห้องน้ำ ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณปาก ลำคอและหน้าอก อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน

 

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เพื่อช่วยชีวิตเป็นการเร่งด่วน ซึ่งขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการตรวจค้นภายในบ้าน ซึ่งก็ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด พบแต่ขวดเหล้าที่วางอยู่และบุหรี่ไฟฟ้ามีร่องรอยการระเบิดตกเกลื่อนกระจาย เต็มพื้นห้องเกิดเหตุ

 

     จากข่าวที่เล่าต่อกันมา โดยสื่อที่ไม่คัดกรอกข่าวที่ได้มา ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าผู้เป็นจำเลยโดนใส่ร้ายจากผู้ไม่หวังดีหรือผู้ที่เสียผลประโยชน์ ทำให้คนที่ได้รับข่าวได้รับข่าวที่ผิดไปจากเดิม น้องๆผมที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าได้มาถามผมว่ารู้เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าระเบิดไหม ก็ตกใจเหมือนกัน ผมจึงค้นหาข้อมูล แล้วจึงได้พบว่าข่าวนี้เป็น "หนุ่มพม่า ยิงปืนใส่กำแพง กระสุนเด้งเข้าขมับสาหัส" โดยมีบุหรี่ไฟฟ้าสภาพปกติ! ขอย้ำนะครับบุหรี่ไฟฟ้าสภาพปกติตกอยู่ 

    เมื่อลองมาวิเคราะห์ดู แบตเตอรี่ความจุและกำลังไฟฟ้าเท่านี้ไม่สามารถระเบิดรุนแรงขนาดนั้นได้ครับ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าใช้แบตชนิด Li-ion เป็นชนิดที่ใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป กำลังไฟไม่สูง

    ซึ่งต่างจากแบตชนิด Li-po ที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งาน ทั้งความจุและกำลังไฟสูงกว่าแบตชนิด Li-ion หลายเท่า เช่นต่อผิดขั้วจะทำให้แบตเตอรี่ร้อนจนถึงขั้นไหม้ได้ ใช้กับพวกรถบังคับความเร็วสูง โรบอท

 

    คุณลองคิดดูครับ มันคือถ่านชาร์ตได้ 1100mah - 2200mah ที่กำลังไฟ 3.3V-6V ถ้าใครคิดไม่ออกก็คือถ่านชาร์ตก้อนเล็กๆ ที่ใส่กล้องถ่ายรูป และใช้กันแพร่หลายในชีวิตประจำวัน ถ้ามันจะระเบิดก็คงโดนไปหลายรายและครับ

 

 จากในคลิปช่อง 3 ด้านล่าง มีสภาพบุหรี่ไฟฟ้าตกอยู่ สภาพปกติดีครับ

     

 

คาบบุหรี่ไฟฟ้า หรือจะเป็นเทรนด์ใหม่สิงห์อมควัน?

 บุหรี่ไฟฟ้าทำงานยังไง

เมื่อที่ผมได้มีโอกาสได้ถือบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในมือตัวเองเป็นครั้งแรก ก็ต้องทึ่งถึงเทคโนโลยีของคนที่คิดมันขึ้นมา เพราะจะว่าไปแล้วมันไม่ได้มีอะไรมากเลย ส่วนปลายที่ยาวที่สุดก็จะเป็น Battery และไฟแสดงสถานะการสูบ

ส่วนกลาง (Atomizer) ก็จะเป็นตัวขดลวดความร้อนที่มีชิบคอมพิวเตอร์เล็กกับตัว sensor ควบคุมเพื่อรับรู้การสูบ และส่งความร้อนไปยังส่วนน้ำยา e-liquid ที่อยู่ในส่วนที่เรียกว่า Cartridge ที่ถ้าเป็นบุหรี่จริงก็จะเรียกกว่าเป็น Filter หรือก้นบุหรี่นั่นเอง

ตรงส่วนก้นบุหรี่หรือ Cartridge ที่ว่านี้ ที่เราต้องถอดเปลี่ยนเมื่อรู้สึกว่าควันหรือรสชาติเริ่มหมด คุณมีทางเลือกว่าจะซื้อ Cartridge เปลี่ยนทั้งอัน (ส่วนใหญ่กล่องหนึ่งมีให้ 5 อัน หรือถ้าซื้อมาทั้งชุดใหม่ๆ ก็จะมีแถมให้จำนวนประมาณๆ นี้ ราคาน่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 100 บาท) ถ้าอยากประหยัด (อย่างผมและคนมากมาย) ก็แค่ซื้อ e-liquid มาเติมเอง ซึ่งเติมง่ายมาก

e-liquid ขวดหนึ่ง 3-400 บาท สามารถเติมได้เกือบเดือนทีเดียว และมีรสชาติให้เลือกเป็นสิบๆ ตั้งแต่ Marlboro – 555- Kent – Dunhill – Mild Seven (ของโปรดของผม) – Mental และรสอื่นๆ ที่ไม่สามารถพบในบุหรี่จริงได้ เช่น มะพร้าว – กาแฟ – ผลไม้ต่างๆ – และรสสตอที่เหม็นเอาการ (อันหลังนี้ผมโม้ ไม่มีหรอกครับ)

เมื่อเราประกอบกันเข้าไป แล้วสูบ ตรงส่วนกลางหรือ Atomizer จะรับรู้ด้วย sensor และทำให้ความร้อนเกิดขึ้นที่ขดลวดเพื่อไปเผาน้ำยาที่อยู่ใน Cartridge ทำให้เกิดควันขึ้นมาให้เราสูบ ควันนี้เอง ที่ออกมาจากบุหรี่จะเป็นไอน้ำ ไม่ใช่สารอันตรายแต่อย่างใด แต่ส่วนที่เข้าในปอดของเราก็่จะเป็นสารนิโครตินอย่างเดียว ไม่มีสารอันตรายอื่นใดทั้งสิ้น ซึ่งถ้าคุณรู้จักสูบแต่ปริมาณที่พอดี ไม่อัดหนักเกิน สารนิโครตินมันก็จะไม่ทำอันตรายต่อร่างกายให้เสียสุขภาพ ซึ่ง Atomizer ที่ว่ามานี้ก็จะเรียกกว่าเป็นแบบ Auto เพราะสูบปั้บมันรู้ปุ้บ ส่งควันให้ทันที แต่…

แน่นอนว่าเมื่อมี Auto ก็ต้องมี Manual (ระบบมือ) ที่ต้องกดปุ่มเมื่อสูบ รุ่นยอดนิยมที่เป็น Manual ก็คงจะไม่พ้นรุ่น Joye510 อย่างแน่นอน ที่หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าให้ควันได้สะใจกระแทกคอดีจริง น้องๆ บุหรี่เลย เหมาะมากกับคนติดบุหรี่ครับ

Joye510 Manual

แต่บอกไว้ก่อนว่ารุ่น Joye510 นี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นรุ่นที่เป็น Manual อย่างเดียว เพราะถ้าคุณซื้อมาหนึ่งชุดมันจะให้ทั้ง Auto และ Manual มาด้วยกัน เผื่อแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่ถ้าเป็นรุ่น Auto ก็ต้องยกให้รุ่น Mini ที่มีหน้าตาเหมือนบุหรีี่่ทั้งหลาย เพราะระบบ Auto ของ Joye 510 นั้น ค่อนข้างรับรู้ได้ไวเกินเหตุ แบบว่าหมาเห่าหน้าบ้านที มันก็ถึงกับไฟขึ้นปล่อยควันออกมาให้สูบกันได้เลย

บทความจาก http://www.ecigguy.com

บุหรี่จริงขายไม่ออกใครเดือดร้อน

แน่นอนว่านอกจาก Tobacco Company แล้วก็ต้องมีรัฐบาลที่กำลังเต้นเป็นจ้าวเข้าอยู่ในตอนนี้ ตั้งแต่บุหรี่เริ่มขายได้น้อยลง และยิ่งไปกว่านั้นตั้งแต่คนเริ่มที่จะยอมรับ electronic cigarette ทั้งใน U.S. – U.K. และก็ประเทศที่มีองค์กรหิวเงินทั้งหลายที่มีเอี่ยวกับ Phillips Morris บริษัทผลิดบุหรี่ที่ใหญ่และมีอำนาจบาทใหญ่ด้วยการใช้เงินอัดใครก็ได้เสมอมา

แล้วยังไงต่อ แน่นอนว่า P.M (phillips morris) ก็ต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ electronic cigarette เสียเครดิต ทำให้คนเห็นว่ามันอันตราย หลายคนสงสััยว่า P.M. คงจะอัดเงินมากมายให้ FDA (ผู้ดูแลความปลอดภัยด้านยาและอาหารในอเมริกา) เพื่อไม่ให้ electronic cigarette ถูกกฎหมาย และกลายเป็นบุหรี่เพื่อสุขภาพ ลองนึกภาพดูว่าถ้า electronic cigarette มีขายตาม 7/11 ใครจะเดือดร้อนที่สุด ดังนั้นผมว่าไม่ต้องอัดเงิน รัฐบาลก็คงต้องไม่อยากเห็น e-cigarette ได้ผุดได้เกิดอยู่แล้ว เพราะมันเงินทั้งนั้น ภาษีบุหรี่แพงจะตายชัก

เมื่อไม่กลางปี 2009 ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ทาง FDA ก็ได้ทดสอบ electronic cigarette เพื่อจับผิดให้ได้ว่าจะเล่นงานเครื่องมือเลิกบุหรี่นี้ยังไงดี แต่ก็ดั้นพบในสิ่งที่ตรงกันข้าม

ก็คือ e-cigarette หรือบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมดที่นำมาทดสอบจาก 20 ตัว มีอยู่แค่ตัวเดียว ที่มีสารก่อมะเร็ง (carcinogens) แถมยังมีน้อยมาก แบบว่าถ้าเทียบกับบุหรี่ Marlboro จริงแล้วละก็ 1/60 เลยทีเดียว พูดอีกอย่างคือ 1 ใน 20 ของบุหรี่ไฟฟ้า จะมีสารก่อมะเร็งแค่ตัวเดียว (เนื่องจากสินค้ามาจากโรงงานที่ไม่ได้มาตราฐาน) แต่ถึงแม้จะมีก็มีน้อยกว่าบุหรี่จริงมากมายจนไม่กล้าไปบอกใคร

แต่เรื่องที่ FDA ค้นพบก็รั่วไหลจนทำให้ electronic cigarette โด่งดังเข้าไปอีก สุดท้ายบริษัท P.M. ก็คงต้องกลุ้ม แต่แหม ผมว่าบุหรี่ยังคงไม่เจ้งง่ายๆ หรอก คนที่ไม่อยากเลิกบุหรี่มีถมไป น่าจะมากกว่าครึ่งเลยด้วยซ้ำ แค่กำไรหายนิดๆ หน่อยๆ คงไม่ตายหรอกมั้ง ทำเงินกับมะเร็งมาตั้งนานขนาดนั้น น่าจะรู้จักเป็นผู้ให้บ้าง แต่ก็นั่นแหละคำว่าองค์กรมันไม่มีตัวตนอยู่แล้ว โดยเฉพาะองค์กรนรกอย่างบริษัทบุหรี่ทั้งหลาย

บทความจาก http://www.ecigguy.com

 ทำไมบุหรี่ถึงอันตราย

         หลายคนถาม หลายคนกว่าจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว หลายรู้เกือบสายเหมือนคุณพ่อของผม ยังดีที่ไม่ได้เป็นมะเร็ง แต่เป็นโรคหัวใจที่พอรักษาได้ ทำให้ผมเห็นเลยว่า ถ้ามันทำร้ายเราไม่ได้ทางหนึ่ง มันก็จะมาอีกทางจนได้ อย่าลืมว่ายังมีโรคร้ายอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถเกิดได้จากการสูบบุหรี่ และต่อนี้คือตัวอันตรายต่างจากสารประกอบในบุหรี่ที่คุณควรรู้ ที่รู้แล้วจะอยากเลิก แล้วหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทนเหมือนกับหลายๆ คนและผม

บุหรี่มีสารประกอบต่างๆ อยู่ประมาณ 4000 ชนิด มีสารก่อมะเร็งไม่ต่ำกว่า 43 ชนิด (Carcinogens) นอกจากนั้นยังมีสารอันตรายที่สำคัญดังนี้คือ

นิโคติน
นิโคตินในที่นี้ ในบุหรี่ส่วนใหญ่จะมีสารนี้อยู่ในระดับที่มากจนเป็นอันตรายได้ มันจะกดประสาทส่วนกลาง มีผลต่อต่อมหมวกไต ทำให้เกิดการหลั่งอิพิเนฟริน ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจ เต้นเร็วกว่าปกติ และไม่เป็นจังหวะ หลอดเลือดที่แขนและขาหดตัว เพิ่มไขมันในเส้นเลือด (ก้นกรองไม่ได้ทำให้ ปริมาณนิโคตินลดลงได้) สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคติน สารนี้จะมีอยู่ในปริมาณที่ไม่สามารถทำอันตรายต่อร่างกายได้

ทาร์ หรือน้ำมันดิน
สารก่อมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด, กล่องเสียง, หลอดลม. หลอดอาหาร, ไต, กระเพาะปัสสาวะ และอื่นๆ ร้อยละ 50 ของน้ำมันดิน จะไปจับที่ปอด เกิดระคายเคือง ทำให้ไอเรื้อรัง มีเสมหะ

คาร์บอนมอนอกไซด์
ทำให้เม็ดเลือดแดงไม่สามารถจับออกซิเจนได้เท่ากับเวลาปกติ เกิดการขาดออกซิเจน ทำให้ มึนงง ตัดสินใจช้า เหนื่อยง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ

ไฮโดรเจนไซยาไนด์
ก๊าซพิษ ทำลายเยื่อบุผิวหลอดลมส่วนต้น ทำให้ไอเรื้อรัง มีเสมหะเป็นประจำโดยเฉพาะตอน เช้า

ไนโตรเจนไดออกไซด์
ก๊าซพิษทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลาย และถุงลม ทำให้ผนังถุงลมบางโป่งพอง ถุงลมเล็กๆ หลายอันแตก รวมกันเป็นถุงลมใหญ่ ทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง

แอมโมเนีย
มีฤทธิ์ระคายเคืองเนื้อเยื่อ ทำให้แสบตา แสบจมูก หลอดลมอักเสบ ไอมีเสมหะมาก

สารกัมมันตรังสี
ควันบุหรี่มีสารโพโลเนียม 210 ที่มีรังสีอัลฟาอยู่ เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด

สรุปสารที่มีอันตรายที่อยู่ใน Tobacco ในบุหรี่ดังนี้:

• tar
• formaldehyde (used to preserve corpses)
• carbon monoxide (known poison)
• DDT (insecticide that has been banned due to its highly poisonous qualities)
• arsenic (substance often used in rat poisons)
• ammonia (chemical toilet cleanser; damages the lungs)
• hydrogen cyanide (deadly poison)

สารที่ใช้ในบุหรี่ L&M ที่เป็นอันตรายและเป็นพิษ:

• phenylacetic acid
• synthetic beeswax
• yeast
• high fructose corn syrup
• caffeine
• molasses
• sugar
• patchouli and cedarwood oils
• chocolate
• artificial licorice flavor
• modified milk ingredients

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณลดบุหรี่จริง และหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันแทน อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องรับสารพิษทั้ง 4000 ชนิดเข้าไปทุกวันเหลือมาเป็นแค่นิโครตินอย่างเดียวที่เป็นสารเดียวที่มากับหมากฝรั่งช่วยเลิกบุหรี่ที่ไม่เคยทำให้ใครเลิกบุหรี่ได้จริงๆ ซักที

บทความจาก http://www.ecigguy.com

      บารากุไฟฟ้าคืออะไร เป็นควันกลิ่นผลไม้ ที่ควันออกมาโดยผ่านวงจรในแท่งเล็กๆ

 การสูบ "บารากุ" หรือบางคนเรียก "ชิชา" (shisha) หรือในภาษาอังกฤษคือ "Water pipe" กำลังได้รับความนิยมจากวัยรุ่นเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าช่วยล้างสารพิษได้และช่วยชูกำลัง

สำหรับ "บารากุ" ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับประเทศไทย มีการนำเข้ามาพร้อมๆกับชาวอาหรับ เนื่องจากบารากุเป็นประเพณีอย่างหนึ่งของชาวอาหรับที่ไม่นิยมสูบบุหรี่ และจะนิยมสูบกันเมื่อมีการรวมกลุ่มสังสรรค์และสนทนากันระหว่างเพื่อนฝูง ญาติมิตร และไม่เฉพาะชาวอาหรับเท่านั้นที่นิยม ชาวมุสลิมแถบมาเลเซียก็นิยมด้วยเช่นกัน บารากุจึงไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ในประเทศไทย 

ปกติบารากุจะได้รับความนิยมจากกลุ่มคนเพียงกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น เนื่องจากหาสูบยากและหาได้เฉพาะตามที่หรือแหล่งเฉพาะเท่านั้น อาทิ ย่านถนนข้าวสาร ย่านซอยนานา เนื่องจากมีชาวต่างชาติและชาวอาหรับอยู่เยอะที่อีกแหล่งคือตามร้านอาหารอาหรับก็จะหาได้ 

ปัจจุบันบารากุได้แพร่กระจายออกสู่ที่ต่างๆ ของสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะสังคมของนักเที่ยวตามผับบาร์ใหญ่ๆ คลับหรูหรือคลับโคโยตี้ จะมีบริการแทบทุกแห่ง ซึ่งทำให้มีผู้นิยมสูบเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกับวัยรุ่น ไม่เฉพาะผู้ชายแต่ผู้หญิงก็ให้ความสนใจเช่นกัน 

ทั้งนี้ เนื่องจากความแปลกใหม่ และราคาที่ไม่สูงมาก ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น การขายนั้นบางที่คิดเป็นช่วงเวลาคือ ราคาต่อ 1 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง หรือว่าจะเหมาทั้งชุดตลอดเลยก็ได้ โดยเริ่มตั้งแต่ 300 บาท ไปจนถึงหลักพันขึ้นอยู่กับตัวยาและสถานที่

เจ้าของร้านแห่งหนึ่งย่านถนนข้าวสาร กล่าวถึงบารากุว่า บารากุเป็นของชาวอาหรับ โดยบารากุจะใช้ "กากชา" ที่มีกระบวนการผลิตพิเศษแทนยาเส้นเหมือนบุหรี่ รสหรือกลิ่นที่ได้จึงหอมหวานแตกต่างกันไปตามชนิดของชาที่มีให้เลือกหลากหลายอาทิ มิ้นต์ หรือรสผลไม้ เป็นต้น 

"เมื่อก่อนบารากุมีมากที่ถนนข้าวสาร แต่ด้วยความที่รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนอุปกรณ์เสพยา บวกกับบางคนนำสิ่งอื่นเข้าไปผสมทำให้บารากุที่เคยมีวางขายเกลื่อนถนนข้าวสารถูกกวาดล้างไปเกือบหมด แต่ตอนนี้บารากุเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และก็เริ่มมีมากขึ้นตามสถานที่เที่ยวต่างๆไม่เฉพาะย่านถนนข้าวสารเท่านั้น" 

เจ้าของร้านคนเดิมกล่าวทิ้งท้ายว่า แม้บารากุจะไม่ใช่สิ่งเสพติด แต่บารากุก็ส่งผลให้ผู้สูบมึนเมาได้หากสูบเข้าไปในปริมาณมาก ผู้สูบก็ต้องดูแลตัวเองด้วย ส่วนร้านก็ไม่ควรขายให้เด็ก 

ก็อยากฝากร้านทุกที่ที่มีบารากุไว้บริการว่า สังคมเริ่มมองเห็นและยอมรับบารากุมากขึ้น ก็อย่าเอาไปทำไม่ดี หรืออย่าเอาของอื่นๆ ที่ไม่ใช่กากชาเข้าไปผสม. 

ที่มา http://arfoto-ruam-km7.is.in.th/?md=content&ma=show&id=1

การสูบ  shisha (บารากู หรือ water pipe)

ภาพจาก 

http://www.travelblog.org/Photos/305481.html

TURKISH WATER PIPE (บารากู ของตุรกี)

ภาพจาก 
http://blogs.yurdan.com/blog/CategoryView,category,Nargile-%20Turkish%20Water%20Pipe.aspx